การ์ดสะสมคืออะไร?

การ์ดสะสม คือการ์ดที่มีการพิมพ์ลวดลายและข้อความที่สวยงาม เพื่อให้ผู้คนที่สนใจสะสมและเก็บรักษาไว้เพื่อความเพลิดเพลินและเป็นงานอดิเรก ปกติจะทำจากกระดาษชนิดแข็งและมีขนาด 2.5 X 3.5 นิ้ว ซึ่งวิธีการได้การ์ดสะสมมีการขายทั้งในรูปแบบของซองที่มีการ์ดในชุดนั้นๆอยู่จำนวนหนึ่ง เช่น 6 ใบต่อ 1 ซอง และการ์ดแถมหรือแลกซื้อร่วมกับสินค้าต่างๆ แต่โดยมากแล้วจะมีการสุ่มการ์ดที่จะได้ (Random) ตามอัตราส่วนและที่แตกต่างกันไปในแต่ละชุด ซึ่งจะทำให้ผู้สะสมไม่ทราบว่าจะได้การ์ดอะไรก่อนที่จะซื้อ รวมถึงการ์ดสะสมบางประเภทที่จะระบุเลขรหัสลงบนการ์ดและมีการผลิตในจำนวนจำกัด จึงทำให้เกิดความหายากของการ์ดขึ้นมา

การ์ดที่ไม่ได้รับความนิยมและผลิตออกมาเป็นจำนวนมาก จะหาได้ง่ายราคาจะต่ำ การ์ดที่ได้รับความนิยม ผลิตออกมาน้อยจะราคาจะสูง โดยส่วนใหญ่แล้วการ์ดสะสมจะทำการผลิตในจำนวนจำกัดหรือช่วงระยะเวลาสั้นๆ จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้การ์ดสะสมจึงเป็นสิ่งที่ต้องการของนักสะสมโดยทั่วไป ซึ่งเป้าหมายของนักสะสมแต่ละคนก็จะแตกต่างกัน บางคนก็ต้องการเก็บสะสมให้ครบชุดนั้นๆ บางคนก็ต้องการเฉพาะการ์ดพิเศษที่มีการผลิตเป็นจำนวนจำกัดในชุดต่างๆ หรือบางคนก็ต้องการเก็บสะสมเฉพาะการ์ดที่มีตัวบุคคลหรือตัวละครที่ชื่นชอบเท่านั้น และหัวใจที่สำคัญที่สุด คือการแลกเปลี่ยนหรือตามหาการ์ดใบที่ยังขาดเหลือเพื่อเก็บสะสมให้ครบชุดกับกลุ่มผู้ที่สะสมการ์ดในชนิดเดียวกัน ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้การสะสมการ์ดมีความสนุกสนาน มีความท้าทายและเป็นความรู้ผสมความบันเทิง (Edutainment) อีกด้วย โดยบริษัทที่มีชื่อเสียงในการผลิตการ์ดสะสมในปัจจุบันก็มีอย่างเช่น Upperdeck จากสหรัฐอเมริกา Konami จากประเทศญี่ปุ่นเป็นต้น

Honus Wagner การ์ดสะสมที่มีราคาแพงที่สุดในโลก 8,000,000 บาท

การ์ดใบนี้ผลิตโดยบริษัท American Tobacco Company ใน Series T206 ช่วงระหว่างปี 1909 – 1911 ที่มีการจัดพิมพ์ภาพนักเบสบอลในสหรัฐอเมริกาในลีก และ Honus Wagner ก็เป็นหนึ่งในตำนานที่้เก่งกาจของผู้เล่นเบสบอล แต่เนื่องจาก Honus Wagner ไม่อนุญาตให้นำภาพของเขาไปจัดพิมพ์ เนื่องจากอาจไม่อยากให้เด็กซื้อบุหรี่ หรือส่วนแบ่งผลประโยชน์ต่าง ๆ ที่ไม่ลงตัว ทำให้การ์ดใบนี้เผยแพร่สู่ตลาดเพียงแค่ 50 – 200 ใบเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้การ์ดสะสมใบนี้มีราคาแพงที่สุดตั้งแต่ปี 1933 ในราคา 50 ดอลล่าร์ ซึ่งถือว่าแพงมากในสมัยนั้น

การ์ดที่นำมาประมูลผ่าน Ebay ในครั้งนี้อยู่ในสภาพที่แตกหัก มีรอยขีดข่วนจำนวนมาก ขอบการ์ดหายไป และอยู่ในเกรด PSA 1 เนื่องจากการที่การ์ดอยู่ในสมุดตัดแปะ (Scrapbook) และเมื่อดึงออกมา กาวที่ติดไว้ก็ทำให้หลังการ์ดนั้นหายไป โดยที่การประมูลเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาจบลงที่ชัยชนะของ Doug Walton ที่ประมูลไปในราคา 220,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แต่ต้องบวกราคาค่าสินค้าเก่าแก่อีก 15% จึงกลายเป็นราคา 262,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (7,860,000 บาท)

ใครยังเก็บสะสมการ์ดอยู่บ้างเอ่ย ไม่แน่นะ การ์ดที่มีอยู่ในบ้านอาจจะมีมูลค่ามหาศาลเหมือนการ์ดใบนี้ก็เป็นได้นะฮ้าฟ