ปีหน้าป๋าจะอยู่ต่อหรือบ๋ายบาย? |
เค้าลางมันเริ่มก่อตัวตั้งแต่หลังออสตาร์เบรกแล้ว เมื่อทีมเริ่มแพ้ติดๆกัน
ทุกคนในทีมต่างก็เริ่มมองหาผู้รับผิดชอบ(นอกจากตัวเอง)
พาว กาซอล แต้มเฉลี่ยลดลงก็บอกว่า "บอลไม่ค่อยถึงเขา"
โคบี้ ออกมาแจงกลับว่า "เพราะ บายนั่ม กลับมาก็ต้องเฉลี่ยๆบอลกันไป"
พอผู้เล่นระดับออสตาร์ผลงานตก พวกเขาก็เริ่มพยายามสร้างผลงานส่วนตัวมากจนเกินไป(เกิดการหวงบอล)มากกว่าการเล่นเพื่อทีม
ผู้นำของทีม (โคบี้) รวมทีมให้เป็นหนึ่งเดียวไม่เป็นในสถาณการณ์ที่ยากลำบากเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่าความเป็นผู้นำในทีมยังห่างจากตอนที่ จอร์แดน นำบูลล์คว้าแชมป์สามสมัยติดกันถึงสองครั้งสองครา ทั้งๆที่โครงสร้างของทีมที่ ฟิล แจกสัน สร้างมาก็มีรูปแบบคล้ายๆกัน (ใช้เกมรุกสามเหลี่ยมเหมือนกัน)
พอเข้าเพลย์ออฟมาผมรู้สึกได้เลยว่า "ความกระหายในชัยชนะ" ของทีมมันลดลงไปมาก (เรียกว่าดับวูปซะงั้น) พอทีมตกเป็นรองก็รู้สึกเสียหน้า พาลออกลูกเกเรแบบโจ่งแจ้งให้เห็นบ่อยครั้ง การสื่อสารระหว่างเกมก็เงียบไป โคบี้ ไม่สารถกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้เลย กาซอลเล่นอย่างกะล้มบอล ไม่เอาใจมาด้วย ทีมไม่ช่วยกันป้องกันเสียลูกง่ายๆตลอด
ฟิล แจ็กสัน ปิดฤดูกาลด้วยการแพ้แบบโดนกวาดเรียบ 4-0 เกม ปีหน้าเราอาจจะได้เห็นเลเกอร์โฉมใหม่(ป๋าฟิลบ่นอยากพักเต็มทีแล้ว) โค้ชใหม่ ผู้เล่นหน้าใหม่ๆ แต่ยังสร้างทีมโดยมีโคบี้เป็นแกนอยู่ ซึ่งก็เป็นวิถีของกีฬาอาชีพละครับ
ป.ล.สิ่งที่เรียนรู้ได้ก็คือ " หลายๆครั้งที่ผมแข่งแล้วแพ้ผมพบว่า ทีมคู่แข่งไม่ได้เล่นเก่งกว่าผมหรอกครับ แต่พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะเอาชนะมากกว่าทีมที่ผมสังกัดอยู่ก็เท่านั้น" สวัสดีครับ
JT.สะใจสุดๆเมื่อกวาดเลเกอร์ 4-0 เกม |
Contact me
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ท่านสามารถ แนะนำ-ติ-ชม ได้เต็มที่เลยนะครับ